กินอย่างไรให้ผิวเปล่งปลั่ง



กินอย่างไรให้ผิวเปล่งปลั่ง

คุณเคยได้ยินไหมกับประโยคที่ว่า “you are what you eat” ซึ่งไม่ว่าคุณจะกินอะไร ร่างกายคุณก็จะได้สิ่งนั้นตอบแทนและเป็นความจริงที่ปฎิเสธไม่ได้ว่าอาหารที่เรากำลังทานเข้าไปอยู่
ทุกวันนั้น คือ สิ่งหลักที่บ่งบอกสุขภาพผิวคุณอีกด้วย ถ้าสาวๆลาวิต้าอยากมีผิวที่สดใส
 เปล่งปลั่งจากภายในสู่ภายนอก การเลือกกินอาหารบำรุงผิวก็เป็นเคล็ดลับอย่างหนึ่งที่คุณควรรู้


1.        กินอาหารที่มีวิตามิน C

 วิตามินซี หรือชื่อเต็มว่า Ascobic Acid เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มนุษย์ไม่สามารถสร้างได้เอง โดยมีหน้าที่ไปช่วยกระบวนการต่างๆของร่างกายเช่น การสร้างคอลลาเจน การสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อและโครงสร้างเส้นเลือดในร่างกายให้แข็งแรง ไม่เปราะ ยืดหยุ่นได้ดี
แล้วยังช่วยลดการทำงานของเอมไซม์ที่ผลิตเม็ดสีผิวต่างๆอีกด้วย ทำให้ริ้วรอย และ ผิวสีคล้ำจากแสงแดดหายไป ผิวดูกระจ่างใสและธรรมชาติมากขึ้น ซึ่งวิตามินซี นั้นสามารถหาได้ง่ายจากผลไม้ทั่วไป เช่น ส้ม
, แอปเปิล , สตรอว์เบอร์รี่ ,  สับปะรด , ทับทิม , มะเขือเทศ , มะนาว , ฝรั่ง , อะโวคาโด และอื่นๆ 

2.        ธัญพืช

บรรดาเหล่าธัญพืชนี่แหละ ที่ผ่านกระบวนการขัดสีน้อย มีเส้นใยอาหารสูง เพราะในธัญพืชมีไนอะซิน (Niacin) ทำให้เซลล์ผิวหนังดูดซึมสารอาหารจากหลอดเลือด แปรปลี่ยนเป็นพลังงานออกมาช่วยให้ผิวไม่แตกแห้ง โดยเฉพาะมือของสาวๆที่แห้งกร้านควรที่จะบำรุงด้วยเหล่าธัญพืชด่วน  สำหรับบ้านเรานั้นสามารถบริโภคธัญพืชได้จาก ข้าวกล้อง ข้าวสาลี ข้าวโพด ข้าวโอ๊ต ลูกเดือย ถั่วเมล็ดแห้ง งา รวมถึงอาหารจำพวก ขนมปังโฮลวีต , ซีเรียล , คุกกี้ธัญพืช หรืออื่นๆที่อุดมไปด้วยวิตามินบี


3.        ชาเขียว

ในชาเขียวนั้นมีฟลาโวนอยด์ (Flavinoids) และสารต้านอนุมูลอิสรพที่คอยช่วยผิวให้ต่อสู้กับแสงแดดและรังสี UV หรือ สภาพแวดล้อมที่มีสารเคมีเป็นหลัก ทำให้ผิวดูอ่อนกว่าเยาว์ ชะลอความแก่ได้ดี แต่ว่าต้องเป็นชาเขียวชนิดชงดื่มเท่านั้น ไม่ใช่แบบชาเชียวที่มีน้ำตาลผสมเยอะ นอกจากนี้ในชาเขียวยังมีสาร แทนนิน ซึ่งช่วยขจัดความมันส่วนเกิน และช่วยรักษาความยืดหยุ่นของผิว ส่วนสารคาเทซินก็ยับยั้งการสร้างสารเมลานินอันเป็นสาเหตุของการเกิดผ้า กระ และจุดด่างดำบนใบหน้า



4.        น้ำเปล่า

การดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอเป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากน้ำมีส่วนช่วยขับไล่สารตกต้าง ชำละไต และทำให้ผิวเต่งตึง มีน้ำมีนวล กระจ่างใส ในแต่ละวันสาวๆควรดื่มน้ำให้ได้วันละ 6-8 แก้ว ไม่นับชาและกาแฟที่มีสารคาเฟอีนและไปทำร้ายผิว โดยเฉพาะช่วงตอนตื่นนอนควรดื่มน้ำเปล่าประมาณ 2-4 แก้ว น้ำเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ผิวมีสุขภาพดี เพราะในร่างกายประกอบไปด้วยน้ำถึง 1 ใน 3 ถ้าร่างกายเราขาดน้ำ ก็จะทำให้ผิวแห้งแตกง่าย เหี่ยวย่นง่าย ก่อนวัยอันควร

5.        สารต้านอนุมูลอิสระต่างๆ

คุณควรเลือกกินอาหารที่ต้านอนุมูลอิสระเยอะ เพราะมันสามารถเสริมความแข้มแข็งของกล้ามเนื้อ โครงสร้างเส้นเลือดในร่างกายแล้ว ยังเสริมความแข็งแรงของระบบเลือดและหัวใจโดยทางอ้อม ซึ่งสารต้านอนุมูลอิสระนั้นเป็นยาอายุวัฒนะที่ทำให้ชะลอความแก่ของผิว โดยสามารถหาสารต้านอนุมูลอิสระจากวิตามิน A,C,E  และแร่ซีเลเนี่ยม
พืชผักที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูงก็ได้แก่  ผักบุ้ง บล็อกเคอรี่ ผักขม ขิง ข่า ขมิ้น กระเทียม รวมถึงผลไม้ต่างๆเช่น ลูกพรุนทั้งแห้งและสด องุ่นทั้งแห้งและสด และอื่นๆ 

www.lavitathailand.com
https://www.facebook.com/lavitathailand/
 






ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ลาวิต้า ไวเทิล ไบร์ท เซรั่ม "เผยผิวสวยโดดเด่น ไม่เน้น Make up"

จบทุกปัญหารอยแผลเป็น ด้วย Scar Care Gel

ริ้วรอยเหี่ยวย่นป้องกันได้