หลากวิธีรักษาฝ้า ต่างกันอย่างไร?


แอนตี้ เมลาสม่า สปอตเซรั่ม
เจ้าจุดสีน้ำตาลที่ผิวหน้า หรือ ฝ้า นั้นเรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในตัวร้ายที่ทำลายความใสของใบหน้าสาวๆ ส่วนใหญ่กันทีเดียว
ซึ่งสาวๆ เองก็คงรู้วิธีรักษาฝ้ากันมาหลากลหายวิธี แต่ทราบไหมค่ะว่าแต่ละวิธีนั้นทำงานกับผิวเราต่างกันอย่างไร
ไฮโดรควิโนน รักษาฝ้า
ถือเป็นยารักษาฝ้าที่ต้องควบคุมการใช้โดยแพทย์ผิวหนังเท่านั้นนะคะ โดยเป็นครีมที่มีสารไฮดรอกซีฟีนอล  ส่งผลให้การผลิตเม็ดสีลดลง และยังยับยั้งการทำงานของเซลล์สร้างเม็ดสีได้ แต่ถ้าใช้ไปนานๆ หรือใช้มากเกินไปอาจทำให้ผิวไวต่อแสงและฝ้าฝังลึกได้ค่ะ
เคมีลอกผิว
เป็นการลอกผิวด้วยน้ำยาเคมี โดยจะทำให้เซลล์ผิวชั้นนอกเนี่ยหลุดออกหมด รวมถึงจุดที่เป็นฝ้าเองด้วย ช่วย ปรับสภาพสีผิว และกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ โดยน้ำยาลอกหน้าแต่ละตัวก็จะมีคุณสมบัติแตกต่างกัน ซึ่งสาวๆ ก็ต้องระวังด้วยนะคะ เพราะถ้าลอกบ่อยๆ จะทำให้ผิวบางลง ระคายเคืองง่าย หรือทำให้ผิวไวต่อแสงแดด แสบแดงง่ายขึ้น จึงควรอยู่ในความดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้นค่ะ
กรอผิวหน้า
การกรอผิวหน้าหรือขัดผิว นั้นเป็นการเร่งการเอาเซลล์ผิวเก่าที่เสื่อมแล้วออกให้ไวขึ้น  ซึ่งการเอาเซลล์ผิวเก่าออกนี้ก็รวมถึงจุดที่เป็นฝ้าบนใบหน้าเราด้วย
โดยวิธีนี้ต้องทำอย่างถูกวิธี เบามือ และไม่ควรทำบ่อย เพราะจะทำให้ผิวหน้าของเราช้ำจนเกินไปค่ะ
เลเชอร์ฝ้า
เป็นอีกวิธีที่สาวๆ นิยมใช้กันเพราะเห็นผลได้เร็ว โดยเลเซอร์ที่ยิงไปจะทำให้ฝ้าและเม็ดสีเมลานินที่สีเข้มถูกทำลาย มีจำนวนลดลง และค่อยๆ จางหายไป
แต่ก็มีผลข้างเคียงนะคะสาวๆ เพราะจะทำให้ผิวเรามีความไวต่อแสงแดดมากขึ้น และผิวหมองคล้ำได้ค่ะ
เลือกวิธีที่ใช้หรือแบบที่เราชอบในการรักษานะคะ หรือลองใช้ La Vita Anti Melasma Spot Serum เซรั่มจากสารสกัดจากเซนเทลล่าบริสุทธิ์
ที่มีเนื้อครีมเบา ซึมง่าย แต่เปี่ยมด้วยประสิทธิภาพที่จะทำให้ฝ้า และจุดด่างดำบนใบหน้าจางลง ทำให้หน้ากลับมากระจ่างใสมากขึ้น ช้าหน่อยแต่ชัวร์ค่ะสาวๆ
#LaVita #สารสกัดเซนเทลล่าบริสุทธิ์ #สารสกัดธรรมชาติ #AntiMelasma #Serum 
www.lavitathailand.com
www.facebook.com/lavitathailand 
line ID : lavitathailand

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ลาวิต้า ไวเทิล ไบร์ท เซรั่ม "เผยผิวสวยโดดเด่น ไม่เน้น Make up"

จบทุกปัญหารอยแผลเป็น ด้วย Scar Care Gel

ริ้วรอยเหี่ยวย่นป้องกันได้