: ฝ้า กับ กระ ต่างกันอย่างไร?



     ฝ้า และ กระ ส่วนใหญ่มักเกิดจากแสงแดดค่ะ เพราะเจ้ารังสี UVA หรือ UVB ตัวร้ายที่มักจะเข้ามาทำร้ายผิวใสๆ ของสาวๆ กระตุ้นให้เม็ดสีเมลานินเกาะตัวกัน จนเกิดเป็นจุดสีน้ำตาลบนใบหน้า แต่ผ้า และ กระ นั้นก็ไม่ได้เกิดจากแสงแดดอย่างเดียวนะคะ 

     ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่ทำให้เกิดฝ้าและกระอีก เช่น การเปลี่ยนแปลงของฮอโมนส์ กรรมพันธุ์ หรือการใช้เครื่องสำอางบางชนิด และรังสีอัลตร้าไวโอเลต เป็นต้น  หลายคนคงเคยสงสัยกันใช่ไหมล่ะค่ะว่า แล้วเจ้าจุดสีน้ำตาลบนผิวหน้าเรานี่มันคือ “ฝ้า” หรือ “กระ” กันแน่???....

มาไขข้อข้องใจนี้ไปด้วยกันเลยค่ะ


“ฝ้า” ลักษณะของฝ้าจะเป็นปื้นใหญ่ๆ สีน้ำตาลอ่อนถึงเข้ม บริเวณที่จะเกิดฝ้าได้บ่อยคือ โหนกแก้ม หน้าผาก ดั้งจมูก หรือบริเวณเหนือริมฝีปากค่ะ ซึ่งเกิดได้ทั้งจากการที่โดนแสงแดดบ่อยหรือฮอโมนส์เปลี่ยนแปลงค่ะ

“กระ” จะมีลักษณะเป็นจุดเล็กๆ สีน้ำตาล ไม่นูนขึ้นมานะคะ ส่วนใหญ่จะเกิดบริเวณแก้ม หรือกระจายเป็นจุดเล็กๆ ทั่วใบหน้าค่ะ

กระเกิดได้จากการโดนแดดบ่อยๆ หรืออาจจะเกิดจากกรรมพันธุ์ หรืออายุที่เพิ่มข้นก็มีส่วนในการเกิดกระบนใบหน้าได้ค่ะ ซึ่งกระ นั้นมีหลายชนิดด้วยกัน เช่น กระเนื้อ กระลึก และกระแดดซึ่งพบมากในวัยสูงอายุค่ะ

     ส่วนวิธีป้องกันไม้ให้เกิด ฝ้า และ กระ  เนี่ย คล้ายๆ กันนะคะ คือการใช้ครีมกันแดดที่มีประสิทธิภาพเป็นประจำ หลีกเลี่ยงแสงแดด หรือการใช้ครีมที่มีสารให้ผิวหน้ากระจ่างใสช่วยลดเลือนให้ ฝ้า และ กระ จางลงได้ค่ะ เช่น


     เซรั่มเข้มข้น จากสารสกัดธรรมชาติ ที่ช่วยลดเลือน ฝ้า กระ และจุดด่างดำ บนใบหน้า ด้วยการสลายและยับยั้งการเกิดฝ้า กระ ได้ถึงต้นเกิดในผิวหนังชั้นใน พร้อมด้วยสารสกัดจากมะขามป้อมที่จะช่วยผลัดเซลล์ผิวชั้นนอกอย่างอ่อนโยน และวิตามินบี 3 ป้องกันการส่งเม็ดสีเมลานินขึ้นมาบนผิวชั้นนอก ทำให้ฝ้า กระ และจุดด่างดำลดลงอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้ผิวของสาวๆ กลับมาดูสว่างกระจ่างใสไร้รอยกันได้อีกครั้งค่ะ

#LaVita #สารสกัดเซนเทลล่าบริสุทธิ์ #สารสกัดธรรมชาติ #รักษาฝ้า #แก้ฝ้า

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ลาวิต้า ไวเทิล ไบร์ท เซรั่ม "เผยผิวสวยโดดเด่น ไม่เน้น Make up"

จบทุกปัญหารอยแผลเป็น ด้วย Scar Care Gel

ริ้วรอยเหี่ยวย่นป้องกันได้