La Vitta

ครีมบำรุงบางตัวสามารถทาได้ทั่วใบหน้า แต่ครีมบางตัวทาทั่วใบหน้ากลับให้ผลเสียมากกว่าผลดี ทั้งนี้ทั้งนั้นไม่ใช่แค่เรื่องของการเสียเงิน หรือ เสียครีมบำรุงเพิิ่ม แต่หมายถึงความเหมาะสมกับการรักษาปัญหาบนใบหน้า โดยเฉพาะฝ้าซึ่งเกิดขึ้นเฉพาะจุด ครีมทาฝ้ามีการออกฤทธิ์กับผิวหนังโดยตรง   และผลัดเซลล์ที่ตายแล้วออกจากชั้นผิวหนัง หากเรานำครีมทาฝ้าไปทาบริเวณอื่นๆที่ไม่เป็นฝ้า ครีมบางชนิดอาจเข้าไปย่อยและทำลายเซลล์ที่สมบูรณ์โดยไม่จำเป็น ซึ่งโดยปกติแล้วเซลล์ที่สมบูรณ์มักจมีชั้นผิวที่บางกว่าเซลล์ที่ตายแล้ว   อาจทำให้ผิวหนังบริเวณนั้นระคายเคืองและอักเสบได้   ทางที่ดีควรทาครีมเฉพาะที่เป็นฝ้าเท่านั้น เพื่อที่จะไม่เปลือง และผิวส่วนอื่นๆไม่เสียโดยใช่เหตุ สำหรับสาวๆลาวิต้าถ้ากังวลเรื่องการเป็นฝ้า ควรหมั่นใช้ผลิตภัณฑ์ที่ลดเลือนฝ้าและจุดด่างดำเป็นประจำ และควรสกัดจากธรรมชาติ เพื่อไม่ให้สารเคมีทำร้ายผิวของคุณไปมากกว่านี้   แอนตี้ เมลาสมา สปอต เซรั่ม เซรั่มสูตรเข้มข้น ตรงเข้าสลายถึงต้นกำเนิด ฝ้า กระ จุดด่างดำใต้ชั้นผิว ยับยั้งการเกิดฝ้าตื้น ฝ้าลึก และกระในระดับยีนจากสารบี-รีซอซิ นอล สกัด จากธรร

บางทีการเป็นฝ้าอาจไม่ใช่เรื่องของพันธุกรรมเพียงอย่างเดียวแต่อาจเป็นเรื่องของพฤติกรรมที่เราชอบทำ และทำมันเป็นประจำแบบไม่รู้ตัว เป็นการสะสมในชั้นผิวจนทำให้ผิวหน้าเราเกิดฝ้า และ จุดด่างดำก็ได้   1. กินน้อย ขาดสารอาหาร การได้รับสารอาหารที่มากไปหรือน้อยไป ทานแต่อาหารทอด มัน ฟาสฟู้ด ของหวาน หรือ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ค่อยได้ทานผักผลไม้ ก็จะทำให้ขาดวิตามิน B12 วิตามิน C   ทำให้เกิดฝ้ กระ ได้ง่ายขึ้น 2. ทานยาคุมกำเนิด เพราะยาคุมกำเนิดมีฮอร์โมนเอสโตรเจนทำให้ไปเร่งและเพิ่มเม็ดสีในผิว รวมถึงผู้หญิงที่ตั้งครรถ์และฮอร์โมนทางเพศเปลี่ยนเช่นกัน   ถ้าสาวๆไม่สามรถเลี่ยงยาคุมกำเนิดได้ให้ลองเปลี่ยนยี่ห้อที่มีเอสโตรเจนน้อยลง เปลี่ยนวิธีคุมกำเนิด ควบคู่ไปกับการใช้ผลิตภัณฑ์รักษาฝ้าไปด้วย   เพียงแค่นี้ฝ้าของคุณก็จะลดลงภายใน 6 เดือน 3 . ทาครีมกันแดดน้อย ครีมกันแดดถือว่าเป็นพระเอกที่ช่วยปกป้องผิวจาก UVA/UVB ทำให้การเกิดฝ้าน้อยลง   และถึงแม้ว่าวันไหนที่แดดไม่ออกสาวๆก็อย่าลืมที่จะทาครีมกันแดดเช่นกัน เพราะว่า แสง UVA /UVB   อยู่ในทุกสภาพอากาศซึ่งไปกระตุ้นทำให้เกิดฝ้า หรือ เห็นฝ้าชัดมากขึ้น กา

สาวๆ หลายคนคงเคยสงสัยกันใช่ไหมคะว่า ทำ มั้ย ทำไม นั่งทำงานในออฟฟิศ หรือใช้ ชีวิตอ ยูแต่ในบ้านในตึก แดดก็ไม่ค่อยจะโดน แต่ ยังงั้ย ยังไง “ ฝ้า ” เจ้ากรรมก็ยังขึ้น แถมบางทียังขึ้นมากกว่าเอาหน้าไปท้าแดดซะอีก La Vita ขอพาสาวๆ ไปพบกับสาเหตุอื่นๆ นอกจากแสงแดดที่ทำให้ฝ้ายังมากวนใจผิวหน้าของเรากันอยู่ ค่ะ 1. รังสี จากจอคอมพิวเตอร์ แสงและรังสีความร้อนจากคอมพิวเตอร์นี่แหละตัวดีพอๆ กับแสงแดด เพราะรังสีจะส่งผลกับผิวหน้าทำให้เกิดความร้อนสะสมจนไปกวนเม ลานิน ในชั้นผิว และทำให้เกิดฝ้าในที่สุดค่ะ พนักงานออฟฟิศทั้งหลายที่นั่งทำงานกันอยู่หน้าจอคอมฯ ทั้งวัน หรือจะคอซี่ รี่ย์ ที่ติดใจนั่งหน้าติดจอ แนะนำให้หาฟิล์มหรือแผ่นจอกรองแสงมาติดจอกันนะคะ 2. ฮอ โมนส์ เปลี่ยน เม ลานิน เปลี่ยน เคส นี้มักจะเกิดกับคนที่กำลังตั้งท้องหรือผู้ที่กำลังจะเข้าสู่วัยทอง ( อายุ 40-45 ปีขึ้นไป ) เพราะการที่ ฮอโมนส์ เปลี่ยนแปลงนั้นมีส่วนที่ไปกระตุ้นการสร้างเม็ดสีเมลา นิน จึงทำให้เกิดฝ้าได้ค่ะ กรณีนี้บางครั้งหลังคลอดฝ้าก็อาจจะค่อยๆ หายไปเอง ขึ้นอยู่กับสภาพ ฮอโมนส์ ของแต่ละคนนะคะ 3. ยิ่ง เครียด ฝ้ายิ่งขึ้น   เพ

เจ้าจุดสีน้ำตาลที่ผิวหน้า หรือ ฝ้า นั้นเรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในตัวร้ายที่ทำลายความใสของใบหน้าสาวๆ ส่วนใหญ่กันทีเดียว ซึ่ง สาวๆ เองก็คงรู้วิธีรักษาฝ้ากันมาหลากลหายวิธี แต่ทราบไหมค่ะว่าแต่ละวิธีนั้นทำงานกับผิวเราต่างกัน อย่างไร ไฮโดร ควิ โนน รักษาฝ้า ถือเป็นยารักษาฝ้า ที่ต้องควบคุมการใช้โดย แพทย์ผิวหนัง เท่านั้นนะคะ โดยเป็นครีมที่มี สา รไฮ ดรอก ซีฟีนอล   ส่งผล ให้การผลิตเม็ดสีลดลง และยังยับยั้งการทำงานของเซลล์สร้างเม็ดสีได้ แต่ถ้าใช้ไปนานๆ หรือใช้มากเกินไปอาจทำให้ผิวไวต่อแสงและฝ้าฝังลึกได้ค่ะ เคมี ลอกผิว เป็นการลอกผิวด้วยน้ำยาเคมี โดยจะทำให้เซลล์ผิวชั้นนอก เนี่ย หลุด ออกหมด รวมถึงจุดที่เป็นฝ้าเองด้วย ช่วย ปรับสภาพสีผิว และกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ โดยน้ำยาลอกหน้าแต่ ละตัวก็จะมี คุณสมบัติแตกต่างกัน ซึ่งสาวๆ ก็ต้องระวังด้วยนะคะ เพราะถ้าลอกบ่อยๆ จะทำให้ผิวบางลง ระคายเคืองง่าย หรือทำให้ผิวไวต่อแสงแดด แสบแดงง่ายขึ้น จึงควรอยู่ในความดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น ค่ะ กรอผิวหน้า การกรอผิวหน้าหรือขัดผิว นั้นเป็นการเร่งการเอาเซลล์ผิวเก่าที่เสื่อมแล้วออกให้ไวขึ้น   ซึ่งการ เอ